the Fall from anotherside, Yean

ระหว่างร่วงหล่นจากขอบสะพานสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง คำถามใดวิ่งวนสู่มโนสำนึก...

Saturday, May 28, 2011

เมื่อฉันเป็นฉลามมมมมมม









แฮ่!

Thursday, October 14, 2010

ในบ้านหลังเก่า

กลับมาทำความรู้จัก
กับตัวเองเมื่อสามสี่ปีก่อน
เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในชีวิต
หรือชีวิตใครมิได้เป็นไปเช่นนี้

มีความทรงจำ
มีชีวิต
มีเรื่องราว
และยังหายใจอยู่

เวลาช่วงที่ผ่านมา
อาจฝังราก
และตัวตน
ในโลกเสมือนอีกแห่งหนึ่ง

ฉันจะมีหรือไม่มีตัวตน
ไม่เห็นแปลกอะไร
ที่นี่เป็นโลกเสมือน
ที่นั่นก็ด้วย

หากคิดถึงพบกันในสักโลกใบนั้น
ฉันและเธอ


http://sukkunsi.multiply.com

Tuesday, March 16, 2010

เสียง

Photobucket



ข้างนอกนั้นมีเสียงแมวร้อง
ข้างในนี้ยังก้องข่าวโทรทัศน์
ห้องน้ำมีเสียงน้ำหยดปรากฏชัด
ราตรีสงัดยิ่งเน้นขับความชัดเจน

ได้ยินทุกสรรพเสียงเป็นไป
แล้วร้อนรนอ่อนไหวเหมือนได้เห็น
ใจไม่อาจสงบเงียบเยียบเย็น
ยังไหวเต้นไหวลุกตามทุกข์ใจ

บอกตัวเองให้เงียบเท่าเงียบสนิท
กลับได้ยินความคิดลั่น สนั่นไหว
เสียงทั้งหมดกลบดังยังภายในไ
ด้ยินไปจนถึงใต้จินตนาการ...



...




กลอนเขียนไว้ปลายปีห้าสอง ต้นปีห้าสาม
บรรยากาศของห้องและภายในไม่สงบดี

ล้วนเป็นเธอเลือกสรร แสดงออก

Photobucket



เธอตอบรับแสงอย่างไร
ยามแสงฉายอาบ

เธอตอบรับสายลมอย่างไร
ยามสายลมสัมผัสต้อง

เธอตอบรับคันธารสหอมอย่างไร
ยามมวลบุปผาขจรกลิ่น

เธอตอบรับเสียงกระซิบแผ่วเบาอย่างไร
ยามสรรพสำเนียงบรรเลงพร่างพรม

เธอตอบรับโลกอย่างไร
โลกล้วนร้องรับพ้องพานตามเธอแบ่งปัน

ขอสันติเป็นรวงรังแห่งเธอนะ
...

หลายวันที่ผ่านมา
ได้นั่งอ่าน ทบทวน เรื่องราวของปวงปราชญ์
ผ่านทัศนะของโอโช เรื่องราวหนึ่งที่ได้จากการเรียนรู้
คือ เราตอบรับโลกอย่างไร โลกก็เปล่งความหมายเช่นนั้น

ปรารถนาแห่งดวงจิต
มีมิติเดินทางแสนยาวไกล
ระยะก้าวหวั่นไหวของความหมาย
ในปัจจุบันขณะจึงเป็นภาวะที่เราสามารถทะลุผ่านมองเห็นอย่างแท้จริง

ไม่ได้บรรลุตามปวงปราชญ์
เนื่องจากการสะกดรอยตัวหนังสือ
หากแต่ก็ชักชวนให้ครุ่นคิดถึงภาวะเต้นไหวบนเส้นสายของความคิด

เมื่อความคิดเดินทาง
เรายิ่งห่างไกลความจริงความคิด
ไม่อาจอธิบายสิ่งนอกเหนือจากนั้นได้

บ่วง แร้ว ดักเราหลงทางเสมอ
บางครั้งเป็นความกลัว บางครั้งเป็นความปีติ
ตลอดระยะห้วงเท้าที่ก้าวไปจึงวูบไหวไม่จบสิ้น

ขณะนี้ ตอนนี้เท่านั้น
ง่ายคือถูกต้อง เริ่มต้นให้ถูกต้อง แล้วจะง่าย
โอ้ หงส์จงบินไปโดยลำพัง
ผู้สังเกตกลายเป็นผู้ถูกสังเกต

ทุกสิ่งเหล่านั้นเอ่ยขานด้วยนามแผกกันไป
หากแต่ล้วนเอ่ยถึงภาวะยิ่งใหญ่เดียวกัน

โอบกอดกันและกันไว้
หัวใจเราเกี่ยวร้อยซึ่งกัน


...

Saturday, August 08, 2009

ในราตรี...

...







ผมไม่รู้ว่า เขาค้นหาปริศนาใดในค่ำคืน
เขาจึงหุ้มห่อความเดียวดายไว้ด้วยเบียร์ขวดนั้น
พลางมองหาใครสักคนจากภายนอก

บรรยากาศเสียงเพลงคลอเบาๆ ของร้านริมถนนลาดพร้าว
ค่อยๆ กลืนกินความเย็นฉ่ำของฟองเบียร์ให้ระเหยหาย
ผมเองก็ด้วย รอคอยสหายบางคนแวะมาสนทนา
จึงใช้จ่ายเวลาด้วยการสังเกตเฝ้ามอง


ลานในหัวไขแล้วเดินเอง
คิดไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตของเขา

ชาวต่างชาติในเมืองตะวันออก
อะไรคือปัจจัยทำให้เขาออกเดินทางออกจากบ้านเกิด
โลกกว้างอ้าแขนต้อนรับ หรือคำตอบนิรนามกวักมือเรียก
ระหว่างทางเดินย่ำ เขาอาจพบความรักกับหญิงสาวในเมืองแปลกหน้า
เลิกร้างห่างหายในชั่วเวลาสามเดือนจากนั้น

เข้าทำงานเป็นครูสอนภาษา คุณสมบัติติดตัวที่ประเทศมหาอำนาจครอบครอง
หรืออาจทำงานในบริษัทชั้นนำที่ขนทุนข้ามชาติมาหลบภาษีรายได้
ไม่รู้หรอก เพียงลานจักรกลเล็กๆ หมุนเดิน
เขาอาจรวบรวมเงินจากการทำงานทั้งปีมาเพื่อค้นหาคำตอบของชีวิต
จากการเผชิญหน้า ผจญภัย เหมือนที่ชาวทะเลในอดีตมอบวิญญาณให้

เพลง billy jeans ดังขึ้นจากลำโพงในร้าน
เจ้าของบทเพลงเพิ่งออกเดินทางไกลอีกครั้ง
คล้ายเป็นคำสาปแสนหวาน
มนุษย์เราล้วนตกอยู่ใต้บงการของการแสวงหา
อาจเพราะจักรวาลยังเคลื่อนตัว และขยายไม่รู้จบ
และโลกก็ยังหมุนโคจรไปด้วยความเร็วเช่นเดิม
เราออกเดินทางเสมอ
ไม่ว่ามันจะเป็นภายนอกหรือภายในตัวเราเอง

จินตนาการชักชวนผมออกเดินเล่น
จนพลันมองหา ณ ตำแหน่งเดิม
เขาก็จากไปแล้ว...

เราต่างมีเส้นทางของเรา
ก้าวเดินไปในราตรีที่ไม่อาจรู้ว่า
รุ่งสางจะอีกยาวนานเท่าใด...







ที่สุดนั้นในราตรี...
แม้เปลือกตาปิดแน่นเพียงใด
ความฝันยังสั่นไหวอยู่ภายใต้นั้น

ผมหวั่นผวา
ถึงความคิดนานาประการ
กับคำตอบขมปร่าเช่นเคย

...


ราตรีสวัสดิ์นะ...

แล้วจะเป็นอีกเรื่องที่ผ่านไป

ไม่มีหรอกคำปลอบขวัญในวันนี้
เมื่อเปี่ยมในดวงฤดีมีแต่โศก
ได้แต่ต้องซึม – ซับ - ซาธรรมดาโลก
ไหวเอนโยก โศกจนเหงาเศร้าจนพอ

มีแต่เธอเพียงเท่านั้นจะรู้ได้
ทุกข์มากมายร้ายเพียงไหนที่เธอท้อ
มีแต่เธอต้องเคี่ยวกรำภายในต่อ
กว่าเศร้าพอกว่าเลิกท้อตามแต่ใจ

หายใจเข้าเอาไว้ให้หนักหน่วง
ในทุกช่วงห้วงเวลาน้ำตาไหล
แล้วสักวันแผลอาจร้างจางหายไป
เป็นเศษผงตะกอนในหัวใจเธอ

๒๒ พ.ย. ‘ ๔๖


เราก้าวเดินได้...
จากก้าวแรกเท่านั้นเอง

Monday, July 20, 2009

เกมของเด็ก...

หลังจากเลิกงานกลับมา
ผมเปิดโทรทัศน์ช่องเคเบิ้ลมุ่งหวังในใจถึง
หนังใหม่สักเรื่องที่ยังไม่เคยดู

แม้บ่อยครั้งจะเป็นเรื่องเดิม
หากมันเป็นเรื่องที่อยากเก็บเกี่ยวเรื่องราว
ผมก็พร้อมจะเรียนรู้มันอีกครั้ง

แต่หกโมงเย็นที่ผ่านมา
เป็นหนังเรื่องที่ผมไม่เคยดูมาก่อน
ผมเปิดมาไม่ทันในตอนต้นเรื่องจึงไม่ทราบว่ามันคือเรื่องอะไร

บรรยากาศของเมืองในยุโรป
ภากแรกของบางสิ่งบนพื้นปูน
มิอาจทราบว่าคือเรื่องใด

เรื่องราวถูกเล่าด้วยน้ำเสียงของใครสักคน - เพศชาย
เรื่องราวของเด็กชายที่เป็นมุ่งมองหาความหวังบางประการในชีวิต
โลกของเด็กที่จินตนาการไม่สูญหายไป
แม่ของเขาป่วยหนักในวันคืนนั้น
หมอมอบถ้อยคำที่ทำร้ายความรู้สึก

แม่มอบของสิ่งหนึ่งให้กับเขา - กระป๋องลวดลายม้าหมุน
และมอบความรักที่เป็นมุมมองของชีวิตต่อมา
ในโรงเรียนวัยเยาว์
เขาได้พบกับเด็กหญิงคนหนึ่งที่ถูกเพื่อนเรียกว่า ตัวประหลาด
จนเหมือนเป็นนามอันแท้จริงของเธอ

เด็กชายมอบกระป๋องใบนั้น ให้เธฮ
แล้วเกมของเด็กๆ ก็เริ่มขึ้น ดำเนินไป...


















กติกา คือ หากใครเป็นผู้ถือกระป๋องใบนั้น จะต้องทำตามคำท้าของอีกฝ่าย
เรื่องเล่นสนุกของวัยเยาว์เร้าและปลูกเพาะความรู้สึกในใจของทั้งสอง
ตัวอย่างความระห่ำ เกิดขึ้นครั้งแรกตอนแปด ขวบ
ทั้งคู่สร้างวีรกรรมด้วยการปลดเบรคมือรถโรงเรียน ที่ยังมีเพื่อนนักเรียนนั่งอยู่เต็มคัน
ให้ไหลลงไปตามถนนลาดเอียง จนครูฝ่ายผู้ปกครองเรียกพบ
และเธอก็จัดการปัสสาวะรดกางเกงโชว์ ต่อหน้าอาจารย์ใหญ่หน้าดุ


ในวันที่แม่ของเขาเสียชีวิต
เด็กชายเล่นท้ากับเด็กหญิงว่าให้กระโดดทั้งชั่วโมง
เด็กชายกระโดดไปพร้อมกับคำภาวนาให้แม่หายดี
เขาทำได้ตามกติกาแต่คำขอมิอาจเป็นจริง...




















เขาปฏิเสธโลกจนกระทั่งพ่อของเขา
ต้องตามหาตัวเธอมาให้อยู่เป็นเพื่อนกัน
จนกระทั่งเข้าสู่วัยหนุ่มสาวความกล้ายิ่งโลดโผนขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคำท้าให้ใส่ชุดชั้นในทั้งเสื้อนอกและกางเกง
เพื่อไปนำเสนองานในชั้นเรียน
หรือทำลายงานเต่งงานของเขา เพราะคำท้าและการขัดขวาง


ตลกร้ายยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที
ถึงขนาดเสี่ยงต่อความตาย แล้วความสัมพันธ์ทั้งคู่ก็จมดิ่งสู่ความร้าวฉาน
ทั้งที่ลึกๆ ทั้งคู่กลับรักกันอย่างสุดซึ้ง และกลายเป็นคำท้าทายครั้งใหม่
ว่าจะไม่ติดต่อกันอย่างสิ้นเชิงเป็นเวลาสิบปี


บ่อยครั้งที่ผมรู้สึกว่า...
การเข้าสู่ดินแดนของคำท้าช่วยฉุดรั้งให้ชีวิตทั้งคู่เดินหน้าต่อไปได้
เขาข่มขื่นใจอย่างหนักกับคำท้าไม่พบหน้ากันนับสิบปี
แต่ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป


คำตอบสุดท้ายของความสัมพันธ์ปวดร้าว
แต่ลงลึกถึงความเข้าใจอันลึกซึ้งในการเติมเต็มซึ่งกัน
ไม่มีโลกภายนอกเข้าถึงเกมของเด็กๆ นั้น
มีเราเป็นผู้สัมผัสและเข้าใจในท้ายที่สุดเอง




ป.ล.
ดูจบแล้ว เพลง La Vie En Rose เพราะขึ้นอีกหลายเท่าเลย (^^

ป.ล.สอง
หนังชื่อ Love me , if you dare หรือในภาคฝรั่งเศส คือ Jeux d'enfants
เรื่องราวของจูเลี่ยน (Guillaume Canet) กับ โซฟี (Marion Cotillard)

Monday, June 15, 2009

ในบางที...

บางทีสิ่งละอันพันละน้อย
มีปัญหากับให้เกี่ยวพันมากกว่า
ประเด็นใหญ่ๆ ที่ใครต่อใครหวาดกลัว

โลกของขอบเขตและพื้นที่
ล้วนมีเพื่อยืนยันการล่วงล้ำกล้ำกลาย
เมื่อดินแดนไร้พรมแดน
การก้าวข้ามก็ไม่เกิดขึ้น

เราต่างมีที่มาแตกต่างกัน
การเติบโตหล่อเลี้ยงดูเราให้ผิดแผกกัน
เมื่ออยู่ร่วมกันสิ่งเหล่านั้น
แสดงหนามแหลมในการกระทบกระทั่ง
อาจเป็นริ้วรอยเล็กๆ
แต่หากแผลไม่เคยหาย
ความเจ็บก็คงมิได้เลือนไป

ความเข้าใจ
ความไม่เข้าใจ
ก่ออิฐทีละก้อนเป็นกำแพงสูง
เมื่อเราต่างละเลยหลงลืม

จนเมื่อความาคาดหวังล่มสลาย
เราคืนกลับสู่พื้นฐานที่เท่าเทียมในความเป็นมนุษย์
มนุษย์ที่มีฐานะเป็นเพียงส่วนเกินเล็กๆ ของธรรมชาติไพศาล

เพียงหวังให้ตนเอง
คลับคล้ายเข้าถึงความยิ่งใหญ่เช่นนั้น


ในบางที...

Saturday, May 23, 2009

ในห้วงหนึ่งนั้น...

ชะอำยามเช้า...


ตื่นเช้ามาเดินทะเล
ก่อนภาระหน้าที่จะตามตัวไปทำอย่างอื่น
ลงจากห้องพักก็หกโมงแล้ว
แต่โชคร้ายที่วันนั้นพระอาทิตย์ยังงีบหลับหลังมวลเมฆที่ขอบฟ้า

Photobucket

ผมเดินข้ามถนนเลียบชายหาด
พบว่ามีร่มชายหาดเริ่มมาตั้งกันแล้ว
ทั้งที่เมื่อคืนยังเป็นเพียงหาดโล่งๆ

หลายคนบนชายหาด
เลือกเดินรับลมทะเลแบบคู่รัก
ลงเล่นน้ำที่คลื่นลมยังไม่แรงนัก
แต่ส่วนมากเลือกลืมเลือนวิธีการส่งเสียงดังไปชั่วคราว

ทะเลไม่ได้เงียบเหงา
เปล่าร้างห่างไกลผู้คนตามมุมภาพที่ผมถ่ายมา
แต่ก็สงบในภวังค์ส่วนตัว
เกลียวคลื่นม้วนตัวแล้วกลับคืนถิ่นฐาน
ผมเปลือยเท้าสัมผัสกับเม็ดทราย
สูดหายใจเข้าออกยาว

Photobucket


ในใจคิดไปถึงมนุษย์คนแรก
ที่กล้าเผชิญหน้ากับมหาสมุทร
มนุษย์คนแรกที่ทิ้งรอยเท้าบนพื้นทรายเนิ่นนาน
ก่อนที่ลูกหลานจำนวนมหาศาลจะย่ำเท้าตามมา...
......





หกโมงสี่สิบนาทีแล้ว...
ผมเดินหันหลังให้เสียงคลื่น
มีเรื่องอีกมากต้องทำในวันนั้น


(^^